วันอังคารที่ 17 ธันวาคม พ.ศ. 2556

   

ประวัติจังหวัดราชบุรี

จังหวัดราชบุรีมีชื่ออันเป็นมงคลยิ่ง หมายถึง
 ” เมืองพระราชาราชบุรีเป็นเมืองเก่าแก่ เมืองหนึ่งของประเทศไทย จากการศึกษาและขุดค้นของ นักประวัติศาสตร์  นักโบราณคดี  พบว่าดินแดนแถบลุ่ม  แม่น้ำแม่กลองแห่งนี้เป็น ถิ่นฐานที่อยู่อาศัยของคนหลายยุคหลายสมัย  และมีความรุ่งเรืองมาตั้งแต่อดีต จากหลักฐานทางโบราณสถานและโบราณวัตถุมาก ทำให้เชื่อได้ว่ามีผู้คนตั้งถิ่นฐานอยู่ ใน  บริเวณนี้ตั้งแต่ยุคหินกลาง  ตลอดจนได้ค้นพบเมืองโบราณสมัยทราวดีที่ตำบลคูบัว  อำเภอเมืองราชบุรี  พระบาทสมเด็จพระยุทธยอดฟ้าจุฬาโลกมหาราช  ปฐมกษัตริย์แห่งราชวงศ์จักรี    ได้เคยดำรงตำแหน่งหลวงยกกระบัตรเมืองราชบุรีในสมัยกรุง ศรีอยุธยา  ตอนปลาย  ซึ่งในช่วงปลายสมัย กรุงศรีอยุธยาและตอนต้นกรุงรัตนโกสินทร์  ปรากฎหลักฐานทางประวัติศาสตร์พบว่า  เมืองราชบุรีเป็นเมือง    หน้าด่านที่สำคัญ  และ  เป็นสมรภูมิการรบหลายสมัย    โดยเฉพาะในสมัยสมเด็จพระพุทธยอดฟ้าจุฬาโลกได้ยกทัพมาตั้งรับศึกพม่าในเขต ราชบุรีหลายครั้ง   ครั้งสำคัญที่สุดคือสงครามเก้าทัพ    ต่อมา พ.ศ. 2360  ในสมัยพระบาทสมเด็จพระพุทธเลิศหล้านภาลัยได้โปรดเกล้าฯ  ให้สร้างกำแพงเมืองใหม่ทาง ฝั่งซ้ายของแม่น้ำแม่กลองตลอดมาจนถึงปัจจุบัน  ครั้นถึงสมัยพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัวใน   พ.ศ. 2437  ได้ทรงเปลี่ยนการปกครองส่วนภูมิภาคโดยรวมหัวเมืองต่างๆ  ที่อยู่ใกล้ชิดกัน  ตั้งขึ้นเป็นมณฑล  และได้รวมเมืองราชบุรี  เมืองกาญจนบุรี  เมือง สมุทรสงคราม   เมืองเพชรบุรี  เมืองปราณบุรี  เมืองประจวบคีรีขันธ์     รวม 6 เมือง  ตั้งขึ้นเป็นมณฑลราชบุรี  ตั้งที่บัญชาการมณฑล  ณ  ที่เมืองราชบุรี ทางฝั่งขวาของแม่น้ำแม่กลอง     (ปัจจุบันคือศาลากลางจังหวัดราชบุรีหลังเก่า)  ต่อมาใน  พ.ศ.  2440  ได้ย้ายที่บัญชาการเมืองราชบุรี  จากฝั่งซ้าย กลับมาตั้งรวมอยู่แห่งเดียวกับศาลาว่าการมณฑลราชุบรี  ทางฝั่งขวาของแม่น้ำแม่กลอง  จนถึง พ.ศ. 2476    เมื่อได้มีการยกเลิกการปกครองแบบมณฑลทั้งหมด  มณฑลราชบุรีจึงถูกยกเลิกและคงฐานะเป็นจังหวัดราชุบรีจนถึงปัจจุบัน

อาณาเขตของ จ.ราชบุรี

ทิศเหนือ : ติดต่อกับ อ.ท่ามะกา และ อ.เมือง จ.กาญจนบุรี
ทิศใต้ : ติดต่อกับ อ.เขาย้อย จ.เพชรบุรี
ทิศตะวันออก : ติดต่อกับ อ.สามพราน อ.เมือง จ.นครปฐม, อ.บ้านแพ้ว จ.สมุทรสาคร และ อ.บางคนฑี อ.อัมพวา จ.สมุทรสงคราม
ทิศตะวันตก : ติดต่อกับ สหภาพเมียนมาร์

 สถานที่เที่ยวที่น่าสนใจในจังหวัดราชบุรี

1.บ้านหอมเทียน

 “บ้านหอมเทียน” ประมาณว่าใครไปสวนผึ้งแล้วไม่ได้ไปที่นี่ถือว่าไปไม่ถึงนะจ๊ะ เพราะนอกจากจะมีเทียนหอมรูปร่างแปลกตาน่ารักน่าชัง ของฝาก และของทำมือดีไซน์เก๋ให้เลือกช้อป เลือกดูกันแล้ว ยังมีกิจกรรมทำเทียน, ร้านอาหาร, ร้านกาแฟ, มุมศิลปะอย่าง, วาดภาพเหมือน และบริการนวดแผนไทย ฯลฯ แต่สิ่งที่ขาดไม่ได้เลยคือมุมโพสท่าถ่ายภาพเก๋ ๆ แจ่ม ๆ ที่มีให้เลือกสรรกันตามใจกันเพียบ
มีอัตราค่าบริการ 40 บาท

2. อัลปาก้าฮิลล์ 

 อัลปาก้าฮิลล์ ฟาร์มอัลปาก้าแห่งแรกและแห่งเดียวที่ใหญ่ที่สุดของไทย ดินแดนอันแสนสวยงามซึ่งเต็มไปด้วยอัลปาก้าขนปุย วิ่งเล่นอยู่ท่ามกลางทุ่งหญ้าสีเขียวกว่า 250 ไร่ โดยมีกิจกรรมที่น่าสนใจ เช่น ป้อน กอด และหยอกล้อกับสัตว์ที่เป็นมิตรอันหลากหลาย ทั้งอัลปาก้า จิงโจ้แคระ กระต่ายยักษ์ หนูตะเภา และอื่น ๆ อีกมากมาย แต่เนื่องจากมีผู้ให้ความสนใจเข้าชมน้องอัลปาก้าเป็นจำนวนมาก เกินกว่าที่กำหนดไว้ต่อวัน (เพียง 200 ท่าน/วัน) อัลปาก้าฮิลล์จึงจะรับลูกค้าผ่านระบบทางการจองออนไลน์ผ่านเว็บไซต์เท่านั้นนะค่ะ
 อัตราค่าบริการ : บัตรธรรมดา 190 บาท, บัตร VIP 290 บาท, บัตร VIP EXPRESS 390 บาท และบัตร YEAR PASS 500 บาท
วันเวลาเปิด-ปิด : วันศุกร์ เวลา 09.30-18.00 น., วันเสาร์ เวลา 09.00-18.30 น. และอาทิตย์ เวลา 09.00-18.00 น.

 3.ตลาดน้ำสวนผึ้ง Veneto

  
ตลาดน้ำสวนผึ้ง Veneto สำหรับผู้ที่กำลังมองหาสถานที่พักผ่อนอันแสนโรแมนติก และศูนย์การค้าสุดอลังการกับรูปแบบของอาคารและร้านค้าที่ออกแบบมาอย่างลงตัว เพื่อความสนุกสนานในการจับจ่าย และเลือกซื้อสินค้า โดยร้านค้าตลาดน้ำ Veneto ถูกออกแบบอย่างมีสไตล์และมีเอกลักษณ์ ภายใต้กลิ่นอายอันแสนโรแมนติกของ Santorin ด้วยความโดดเด่นของตัวอาคารสีขาวสะอาดตาตัดกับสีน้ำเงินสด ท่ามกลางเทือกเขาที่เขียวขจีจนมีเอกลักษณ์และรูปแบบที่ไม่เหมือนใคร อีกทั้งยังได้ตื่นตาและเพลิดเพลินกับการเก็บภาพความประทับใจของลานน้ำพุ หอระฆัง และสวนหย่อม โดยจะเริ่มเปิดให้ท่องเที่ยวเดือนตุลาคม 2556 ที่ผ่านมา

รีสอร์ทสุดเก๋กับกิจกรรมมากมาย

1.The Scenery Vintage Farm

สถานที่ท่องเที่ยวแบบ One Day Trip ไม่มีที่พักค้างคืน ให้บริการเยี่ยมชมฟาร์ม, ให้อาหารน้องแกะ, มีร้าน Honey Scene ที่ให้บริการอาหาร เครื่องดื่ม ไอศกรีม และขนม, ให้บริการถ่ายรูปแบบวินเทจ, มีซุ้มเกมการละเล่นต่าง ๆ มากมาย เช่น ยิงธนู ยิงเป้า, มีร้าน Sheepie Sheep จำหน่ายเสื้อผ้า สินค้าที่ระลึก สินค้าตกแต่งบ้าน

 อัตราค่าบริการ : ผู้ใหญ่ 40 บาท เด็ก 20 บาท (เอาบัตรไปแลกหญ้าได้คนละ 1 กำ
 วันเวลาเปิด-ปิด : วัน   จันทร์-ศุกร์ เวลา 08.30-18.00 น. วันเสาร์, วันอาทิตย์ และวันหยุดนักขัตฤกษ์ เวลา 08.30-18.30 น.

2.New Land

 Newland เป็นดินแดนแห่งความสุขที่จะพาคุณย้อนกลับไปสนุกสดใสเหมือนในวัยเด็กอีกครั้ง กับกิจกรรมที่คอยต้อนรับมากมาย ทั้งขบวนรถไฟเล็กแสนสนุกที่จะพาไปชมบรรยากาศรอบ ๆ ไร่ ซึ่งมีไฮไลท์อยู่ที่สถานีเลี้ยงแกะ ที่รอให้คุณหนู ๆ มาป้อนนม ให้อาหาร และอุ้มถ่ายรูปกันอย่างใกล้ชิด นอกจากนี้ ยังมีกิจกรรม ATV ทั้งสำหรับเด็กและผู้ใหญ่ กิจกรรมยิงธนู สำหรับนักท่องเที่ยวขาลุย ซุ้มเล่นเกมต่าง ๆ และมุมสวย ๆ ไว้ถ่ายรูปอวดเพื่อนสำหรับคนที่รักการถ่ายรูป รวมถึงร้านอาหารและโซนของฝากที่คัดสรรแต่ของอร่อยมีคุณภาพมาเป็นอย่างดี เอาใจนักท่องเที่ยวขาช้อปที่ต้องการของติดไม้ติดมือกลับบ้าน

 อัตราค่าบริการ : รถไฟ ผู้ใหญ่ 60 บาท เด็ก 40 บาท, เลี้ยงแกะ 40 บาท, ATV กลาง (นั่ง 1 ท่าน) 200 บาท 3 รอบสนาม ใหญ่ (นั่ง 2 ท่าน) 300 บาท 3 รอบสนาม ลุยป่า 600 บาท, ยิงธนูชุดละ 100 บาท, ยิงปืน หน้าไม้ชุดละ 100 บาท และยิงปืนชุดละ 100 บาท ทั้งนี้
 วันเวลาเปิด-ปิด : ทุกวัน ตั้งแต่เวลา 09.00-19.00 น.

3.โมอาย สวนผึ้ง

โมอาย สวนผึ้ง อยู่ติดถนนใหญ่ทางหลวงเส้นหลักเข้าอำเภอสวนผึ้งด้านขวามือ ซึ่งเป็นมากกว่าคำว่า "ร้านกาแฟ" เพราะมีทั้ง โมอาย คอฟฟี่ (Moai Coffee) และ โมอาย ฟาร์มแกะ (Moai Sheep Farm) ถือเป็นสถานที่ท่องเที่ยวแห่งใหม่ของอำเภอสวนผึ้ง ที่มีรูปแบบแปลกใหม่ สะดุดตา ซึ่งนอกจากที่นี่จะให้ความเพลิดเพลินในการท่องเที่ยว พักผ่อน ชมวิว และดื่มด่ำกับรสชาติของกาแฟแล้ว ที่นี่ยังเป็นจุดที่เรียกความสนใจให้ลูกค้าหันมาสนใจเกี่ยวกับเรื่องราวของอารยธรรม สถาปัตยกรรมเก่าแก่ ที่ได้รับการยกเป็นมรดกโลกอย่างโมอายอีกด้วย และนอกจากกาแฟและเครื่องดื่มยังมีสินค้าอื่น ๆ ให้เลือกซื้อสำหรับซื้อเป็นของขวัญและของฝาก
 วันเวลาเปิด-ปิด : ทุกวัน เวลา 09.00-18.00 น.

 http://www.youtube.com/watch?v=wslJsLBKcQI